Intimex ศูนย์ เครื่องช่วยฟัง หูหนวก หูตึง
ขณะนี้คุณอยู่หน้า หน้าแรก » ใส่เครื่องช่วยฟัง ลดอาการเหนื่อยล้าจากการฟังได้อย่างไร
สมองของคุณจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อประมวลผล เพื่อพยายามหาความหมายเชื่อมโยงกับเสียงคำพูดที่ได้ยิน ทำให้การนำพลังสมองไปทำกิจกรรมอื่นๆ ลดน้อยลง คุณไม่เพียงแต่รู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตใจเท่านั้น แต่ยังรู้สึกเหนื่อยล้าทางร่างกายด้วย
ผู้ที่มีการได้ยินปกติ ไม่ได้ตระหนักถึงความเครียดนี้ เนื่องจากเป็นประสบการณ์ “ปกติ” เมื่อสนทนาพูดคุยกับผู้อื่น แต่สำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินแล้ว แม้แต่กิจกรรมง่ายๆ เช่น การพูดคุยกับเพื่อน ก็ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าได้ เนื่องจากการพยายามฟังและเข้าใจผู้ที่กำลังพูดด้วยอย่างต่อเนื่อง จึงชดเชยการสูญเสียการได้ยินด้วยวิธีต่อไปนี้
สมองของเราสามส่วนเชื่อมต่อกับระบบการได้ยินเพื่อช่วยประมวลผลและตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยิน ได้แก่
สำหรับผู้ที่มีการได้ยินปกติ สมองทั้งสามส่วนนี้จะทำงานสัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้การสื่อสารเป็นเรื่องง่าย หูทำหน้าที่รวบรวมเสียงจากผู้คนที่คุณคุยด้วย เสียงสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งต่อไปยังหูชั้นใน โดยที่เซลล์ขนรับเสียงเล็กๆ ในหูชั้นในทำหน้าที่แปลงคลื่นเสียงเป็นพลังงานไฟฟ้าไปที่สมอง ส่งผ่านไปตามเส้นประสาทการได้ยินไปยังสมอง สมองของคุณมีหน้าที่ในการ “ถอดรหัส” สัญญาณเหล่านี้เป็นเสียงที่มีความหมาย
เมื่อเราสูญเสียการได้ยิน สมองจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อทำความเข้าใจข้อมูลที่ได้รับจาก หูชั้นใน เซลล์ขนแต่ละเซลล์มีหน้าที่แปลระดับความดังเสียง และรับความถี่เฉพาะของแต่ละเสียงที่ส่งมาจากหูชั้นนอก เป็นสัญญาณไฟฟ้า ส่งไปตามเส้นประสาทการได้ยินไปยังสมอง เมื่อเซลล์ขน เหล่านี้เสียหายเกินกว่าจะแปลความถี่นั้นได้ ความถี่ช่วงนั้นก็จะหายไป ระบบการได้ยินจะสูญเสียความสามารถในการแปลความถี่นั้นๆ สมองจึงทำงานหนักขึ้นเพื่อทำความเข้าใจสัญญาณ ประมวลผลข้อมูลที่เข้ามาด้วยเซลล์ประสาทสัมผัสเท่าที่เหลืออยู่เท่านั้น ความพยายามที่เพิ่มขึ้นนี้ นำไปสู่สภาพที่เรียกว่าความเหนื่อยล้าจากการฟัง เป็นวิธีสมองกำลังบอกคุณว่า “ฉันต้องการพัก!”
อ้างอิงจาก
https://www.nidcd.nih.gov/health/journey-of-sound-video
สำหรับผู้ที่มีการได้ยินปกติ การฟังเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติพอๆ กับการหายใจหรือกะพริบตา ไม่ต้องใช้ความพยายามเพ่งความสนใจไปที่เสียงเพื่อทำความเข้าใจความหมายของเสียง แต่สำหรับผู้ที่มีการสูญเสียการได้ยินแล้ว การที่ต้องมีสมาธิกับการฟังเสียงพูด เสียงสนทนา การฟังเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ผู้ที่สูญเสียการได้ยินเข้าใจได้เพียงครึ่งเดียว ส่วนที่เหลือเกิดจากการคาดเดาความหมายจากบริบทโดยรวม จากข้อมูลเสียงที่ได้ยินเพียงบางส่วน การอ่านริมฝีปากประกอบเป็นการเพิ่มให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาของการสนทนา การเพ่งความสนใจกับอ่าน ริมฝีปาก ใช้สมาธิจดจ่อกับเสียงที่ได้ยิน ต้องใช้ความพยายามและพลังงานมากกว่าปกติ เป็นการที่สมองใช้พลังงานในการประมวลผล และการสร้างความหมายจากคำและประโยคที่ได้ยิน
พลังงานสำรองจากสมองของคุณจึงถูกนำไปใช้ตลอดทั้งวัน กระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ทำให้จิตใจของคุณเหนื่อยล้าเท่านั้น แต่ยังทำให้ร่างกายของคุณอ่อนเพลียด้วย
ยิ่งสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมากมาย เช่น ห้างสรรพสินค้าหรือกลางแจ้ง ยิ่งสร้างความเครียดให้กับคุณมากยิ่งขึ้นไปอีก